แปลภาษาต่างๆในงานต่าง ๆ ผู้แปลต้องมีทักษะอย่างไรบ้าง

งานแปลภาษาไม่ใช่แค่การเปลี่ยนภาษา แต่คือการถ่ายทอดความหมาย สื่อสารอารมณ์ และสร้างความเข้าใจ

แปลภาษา

การสื่อสารข้ามพรมแดนกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดามากขึ้น ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกติดต่อสื่อสาร แลกเปลี่ยนข้อมูล ขยายธุรกิจ และท่องเที่ยวกันมากขึ้นเช่นกัน ต้องยอมรับว่าอุปสรรคด้านภาษาจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ "การแปลภาษา" จึงมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมต่อผู้คนจากวัฒนธรรมที่แตกต่าง ช่วยให้เข้าใจความหมาย สื่อสารความคิด และสร้างความร่วมมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บทความนี้เราจะมาว่ากันด้วยเรื่อง ทักษะที่จำเป็นสำหรับ "นักแปล" รวมไปถึงศูนย์แปลภาษา และเครื่องมือที่ใช้ในการแปล เราขอชวนคุณมาเปิดโลกกว้าง เรียนรู้ศาสตร์แห่งการแปลภาษา ไปพร้อมเรา ติดตามกันได้เลย

ทักษะ Hard Skill ที่นักแปลภาษาทุกคนต้องมี!

1.ทักษะทางภาษา
ก็เหมือนกับนักรบ ที่ไร้ซึ่งทักษะทางดาบ หากนักแปลภาษาไร้ซึ่งทักษะทางภาษา เปรียบเทียบให้เห็นภาพง่าย ๆ แบบนั้นเลย เนื่องจากทักษะทางภาษาเป็นสิ่งที่ "จำเป็น" อย่างมากสำหรับนักแปลภาษา เปรียบเสมือนเครื่องมือหลักที่ช่วยให้นักแปลสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ทักษะทางด้านนี้ก็มีแยกย่อยลงไปได้อีก

ลำดับแรกคือ ความรู้ทางไวยากรณ์ (Grammar) นักแปลภาษาต้องเข้าใจโครงสร้างประโยค ใช้คำศัพท์ได้ถูกต้องและเรียบเรียงประโยคให้สละสลวย นำมาซึ่งการรักษาความถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ ต่อมานักแปลต้องรู้จักคำศัพท์จำนวนมาก เข้าใจความหมายของคำศัพท์ทั้งแบบนัย และทางตรง ซึ่งจะทำให้นักแปลเลือกใช้คำศัพท์ที่เหมาะสม และถ่ายทอดความหมายได้อย่างสมบูรณ์

จนไปถึงการรับรู้ถึง Culture หรือวัฒนธรรมต่าง ๆ และสำนวน ของพื้นเพนั้น ๆ เข้าใจวัฒนธรรมของภาษาต้นทางและภาษาปลายทางเป็นอย่างดี ซึ่งจะทำให้นักแปลภาษาเลือกใช้ภาษาที่เหมาะสมกับวัฒนธรรม หลีกเลี่ยงการใช้ภาษาที่อาจทำให้เข้าใจผิด และใช้สำนวนได้ถูกกับสถานการณ์นั่นเอง

2.ทักษะการเขียน
ทักษะการเขียน ถือว่าเป็นหนึ่งในทักษะที่ "สำคัญ" มากที่สุดสำหรับนักแปลภาษา เพราะงานแปลส่วนใหญ่เป็นการแปลออกมาในรูปแบบตัวหนังสือ นักแปลภาษาจึงจำเป็นต้องมีทักษะการเขียนที่ดี เพื่อที่จะสามารถถ่ายทอดความหมาย จากภาษาหนึ่งไปยังอีกภาษาหนึ่งได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน และชัดเจน รวมไปถึงการเรียบเรียงประโยค ให้สละสลวย อ่านเข้าใจง่าย การเลือกใช้คำศัพท์ ที่เหมาะสมกับบริบท

นำมาซึ่งการรักษาความถูกต้อง ตามหลักไวยากรณ์และหลักภาษา รวมไปถึงการใช้สำนวนภาษาปลายทางได้อย่างถูกต้อง สุดท้ายจะสามารถทำให้นักแปลภาษาถ่ายทอดอารมณ์ และความรู้สึกของเนื้อหาต้นฉบับออกมาได้ตรงยิ่งขึ้น

ทั้งนี้นักแปลภาษาที่มีทักษะการเขียนที่ดี จะสามารถแปลงานได้ตรงประเด็น และตรงกับความต้องการของลูกค้านำมาซึ่งการสร้างความประทับใจ ให้กับลูกค้า และสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองนั่นเอง ไม่ว่าคุณจะแปลหนังสือบทความ แปลเว็บไซต์ แปลเอกสาร หรือแปลงานวิจัย หากคุณมีความมานะพยายาม Grand Translation เชื่อเหลือเกินว่าสักวันต้องเป็นของคุณ

เราจึงอยากให้ใครก็ตามที่มีความฝันเป็นนักแปลภาษา ให้ฝึกฝนการเขียนอยู่เสมอ และอ่านหนังสือ บทความ รวมไปถึงงานเขียนต่างๆ เป็นประจำ ศึกษาหลักไวยากรณ์และหลักภาษานั้น ๆ เรียนรู้การใช้สำนวนภาษา ฝึกฝนการแปลภาษา จนไปถึงการขอ feedback จากผู้อื่น ทั้งหมดทั้งมวลล้วนทำให้คุณเก่งขึ้นแน่นอน

3.ทักษะการอ่าน
เพราะการอ่านจะทำให้นักแปลภาษาเข้าใจเนื้อหา ของภาษาต้นฉบับได้อย่างถ่องแท้ และวิเคราะห์ข้อมูลและบริบทของเนื้อหา ตีความความหมายของเนื้อหาได้อย่างถูกต้อง และยังสามารถจับใจความ สำคัญของเนื้อหาแยกแยะ ข้อเท็จจริงกับความคิดเห็นได้ รวมไปถึงเข้าใจวัฒนธรรมและภูมิหลังของภาษาต้นฉบับได้ดียิ่งขึ้น

ดังนั้นสำหรับใครที่อยากเป็นนักแปลภาษา สิ่งที่คุณจะต้องฝึกฝนคือการอ่านภาษาต่างประเทศอยู่เสมอ ศึกษาคำศัพท์ และไวยากรณ์ให้ถ่องแท้ ฝึกฝนการจับใจความ วิเคราะห์ข้อมูล รวมไปถึงการตีความให้ได้ เพราะการอ่านจะนำไปสู่การเข้าใจเนื้อหาต้นฉบับอย่างลึกซึ้ง ค้นหาข้อมูลและหล่งอ้างอิง ทำให้คุณได้เลือกใช้ภาษาได้อย่างเหมาะสมในที่สุด

4.ทักษะการวิจัย
นับว่าเป็นทักษะที่จำเป็นอย่างยิ่งกับทุกสายงานที่ต้องใช้ข้อมูลสำหรับการ ‘วิจัย’ หรือ Research เพื่อให้ได้มาข้อมูลที่ถูกต้อง และจำเป็นมากที่สุด ซึ่งแน่นอนนักแปลภาษาก็ต้องมีทักษะนี้ติดตัวเช่นกัน เพราะต้องใช้ในการหาข้อมูล เข้าใจเนื้อหาแก่นแท้ สามารถแปลเนื้อหาได้อย่างตรงไปตรงมา รวมไปถึงเลือกใช้คำศัพท์ได้อย่างถูกต้อง

บางครั้งก็ต้องใช้ทักษะนี้ในการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อขอคำแนะนำหรือตรวจสอบความถูกต้องของการแปล รวมไปถึงการศึกษาบริบททางวัฒนธรรมดังที่กล่าวไปข้างต้น เพราะเมื่อคุณต้องแปลข้ามภาษาและวัฒนธรรมแล้ว นักแปลภาษาต้องค้นคว้าเรียนรู้บริบททางวัฒนธรรมของภาษาต้นทางและภาษาเป้าหมาย เพื่อให้การแปลภาษาออกมาเหมาะสม และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดนั่นเอง

5.ทักษะการใช้คอมพิวเตอร์
แน่นอนว่านักรบย่อมต้องมีอาวุธข้างกาย นักแปลภาษาก็ต้องมีเช่นกัน นั่นก็คือ ‘ทักษะการใช้คอมพิวเตอร์’ ที่หากคุณอยากเป็นนักแปลภาษา ก็ต้องฝึกฝนตรงนี้ด้วยเช่นกัน

เพื่อให้คุณใช้โปรแกรมแปลภาษา (CAT tools) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงใช้ Microsoft Office เช่น Word, Excel, PowerPoint ได้อย่างคล่องแคล่ว ([หรืออาจจะใช้ Google Workspace ก็ย่อมได้) ไหนจะเรื่องการค้นหาข้อมูล เช่น Google Search บางประเทศก็อาจจะใช้ Bing Baidu ต่าง ๆ หรือใช้โปรแกรมสื่อสาร เช่น Email, Zoom ได้อย่างคล่องแคล่ว เป็นต้น เหล่านี้ก็เป็นทักษะที่นักแปลทุกท่านต้องมีติดตัวไว้
CTA: เพราะงานแปลไม่ใช่แค่การเปลี่ยนภาษา แต่คือการถ่ายทอดความหมาย สื่อสารอารมณ์ และสร้างความเข้าใจ Grand Translation เข้าใจความสำคัญของงานแปล จึงมีทีมนักแปลมืออาชีพที่มี "ทักษะครบครัน" แปลงทุกภาษา สื่อสารทุกงาน แบบไร้ขีดจำกัด

Grand Translation ศูนย์แปลภาษา รับแปลเอกสารทางธุรกิจและกฎหมาย การแปลทางเทคนิค การแปลทางการแพทย์และการดูแลสุขภาพ การแปลซอฟต์แวร์และเกม การแปลเว็บไซต์ และเพื่อการตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้มากขึ้น เราจึงมีบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การรับรองเอกสาร ซึ่งสามารถนำไปใช้ยื่นหน่วยงานราชการต่าง ๆ ได้ เพราะมีการรับรองความถูกต้องถามกฎหมายโดยกระทรวงต่างประเทศของไทย บริการทางด้านนิติกร และบริการล่าม

ทีมงานของเราประกอบด้วยนักภาษาศาสตร์ประสบการณ์สูงมากกว่า 10 คน คุณจึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับงานคุณภาพสูงซึ่งผ่านการแปลจากนักแปลผู้เชี่ยวชาญอย่างตรงเวลา ด้วยราคาสมเหตุสมผล หมดกังวลเรื่องการรักษาความลับ เพราะเรามีการจัดเก็บเอกสารอย่างปลอดภัย และทางเราสามารถทำสัญญาไม่เปิดเผยข้อมูลได้

 

สนใจใช้บริการ ศูนย์แปลภาษา ติดต่อ
Tel : 081-625-2552 or 087-571-5885